วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มารูน ไฟว์ กลับมากี่ครั้งก็ยังฮอต มันส์สะใจแฟนๆ

"เพลงใหม่"

เนื้อเพลงใหม่ล่าสุดไม่ปล่อยให้แฟนเพลงต้องคิดถึงกันนานทันทีที่ปล่อยอัลบั้มใหม่ล่าสุด Overexposed ออกมา ศิลปินสุดฮอตขวัญใจคนทั่วโลก มารูน 5 (Maroon 5) ก็ออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกอีกครั้ง โดยทั้ง 5 หนุ่มกลับมาพบกับแฟนเพลงชาวไทย กับคอนเสิร์ต สิงห์ พรีเซ้นทส์ มารูน ไฟว์ ไลฟ์ อิน แบ็งคอค 2012 (Singh presents Maroon 5 Live in Bangkok 2011) วันที่ 8 ตุลาคมนี้ ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยครั้งนี้ความฮอตของพวกเค้าพุ่งถึงขีดสุดบัตรคอนเสิร์ตกว่าหมื่นใบถูก จำหน่ายหมดเกลี้ยงภายในเวลา 2 วันเท่านั้น!!

MAROON 5 LIVE IN BANGKOK 2011

5 ผู้ชายมาดเท่ห์ อันต่อเรือด้วยนักร้องพาสุดฮอต อดัม เลอวีน (Adam Lervine) , เจมส์ วาเลนไทน์ (James Valentine) มือกีตาร์, มิกกี้ แมดเดน (Mickey Madden) มือเบส, แม็ต ฟลิน (Matt Flynn) มืองกลอง และ พีเจ มอร์ทอน (JP Morton) มือคีย์บอร์ด (เล่นแทน เจส คาร์ไมเคิล ที่ลาพักชั่วคราว) พวกเขาคือวงพ็อพร็อคชั้นนำจากอเมริกาที่มีคนรักคลับทั่วภพมากมายและตืด เฟ้อเป็นอย่างพลุ่งพล่านในบ้านผม โดยการแสดงดนตรีทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ในปี 2009 และ 2011 ได้เนรมิตปรากฏการณ์คดีมันและยอดจำหน่ายบัตรถล่มแตกพังในเมืองเมืองไทยแบบไร้ข้อ กังขาใดๆในคดีเป็นศิลปินยอดแบบ

สำหรับฝีไม้ลายมือที่ทางท่วงทำนองที่ยอดเยี่ยมของวง และความเป็นสุดยอดเอ็นเตอร์เทรนเนอร์ของหนุ่มฮอตตลอดกาลอย่าง อดัม เลอวีน บวกกับเพลงฮิตอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดิส เลิฟ (This Love), ชี วิล บี เลิฟด์ (She Will Be Loved), เมคส์ มี วันเดอร์ (Makes Me Wonder), เวค อัพ คอล (Wake Up Call), มูฟ ไลคส์ แจ็กเกอร์ (Move likes Jagger) จน มาถึง เพย์โฟน (Pay Phone) และ วัน มอร์ ไนท์ ( One more Night) จากอัลบั้มล่าสุด ทำให้พวกเขาเป็นที่หมกหมุ่นของแฟนทำนองเพลงทั่วโลก และระวังติดสอยห้อยตามรอชมคอนเสิร์ตเมื่อแล้วครั้วเล่า

มารูน 5 เริ่มสะดุดตาฉายแววคดีเป็นวงร็อคชั้นเขตหน้าตั้งแต่ ชิ้นงานอัลบั้มเบื้องต้น ซอง อเบ้าท์ เจน (Song About Jane) ที่มีชื่อเพียงข้ามคืนกับซิงเกิ้ลแรก ดิส เลิฟ (This Love) และกวาดยอดขายทั่วโลกไปกว่า 10 ล้านก็อปปี้ ทดถึงซิวรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในงาน เอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิค อวอร์ด ในปี 2004 และรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขาศิลปินหน้าใหม่ และสาขาสำนักงานศิลปินกลุ่มเด่นจากเพลง ดิส เลิฟ ในปี 2005 และ 4 ปี หลังจากทัศนาจรทัวร์คอนเสิร์ตกับศิลปินมากความรอบรู้อย่าง เดอะ โรลลิ่ง สโตนส์ (The Rolling Stones) และ สตีวี วันเดอร์ (Stevie Wonder) พวกเขาก็เปลี่ยนมาผงาดในเรือนป็อบร็อคละแวกหน้าอีกครั้ง กับงานเลี้ยงเพลงชุด ที่สอง อิท วอนท์ บี ซูน บีฟอร์ ลอง (It Won’t Be Soon Before Long) โดยเปิดตัวด้วยเพลง เมค มี วันเดอร์ (Makes Me Wonder) ที่ได้เนรมิตประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับบิลบอร์ดชาร์ทสิ่งอเมริกา ด้วยงานเป็นเพลงที่กระโดดจากอันดับที่ 64 ขึ้นสู่อันดับ 1 ได้ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น นอกจากนี้ เพลง เมค มี วันเดอร์ ยังทำให้พวกเขาได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขาสำนักงานคนเด่นกลุ่มเด่น และสมุดภาพชุดนี้ก็ได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดในสาขาอัลบั้มยอดเยี่ยม ในปี 2007 สำหรับเช่นกันและกัน

หายไป 3 ปี ฝ่ายเขากลับมาทวงสิทธิ์บัลลังภ์คดีเป็นวงร็อกซูเปอร์สตาร์กับ แฮนดส์ ออล โอเวอร์ (Hands All Over) กับซิงเกิ้ลที่มีจังหวะคักเบิกบาน มิสเซอรี่ (Misery), กีฟ อะ ลิตเติ้ล มอร์ (Give A Little More) และ Never Gonna Leave This Bed (เนเวอร์ กอนนา ลีฟ ดีส เบด) และซิงเกิ้ลปิดท้ายที่ออกมาเขย่าโลกอย่าง มูฟ ไลคส์ แจ็กเกอร์ (Move likes Jagger) ทำนองเพลงที่ถูกซื้อผ่านการดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นประวัติกาล ส่งผลให้ดีกรีคดีฮอตของ อดัม เลอวีน พุ่งขึ้นถึงขีดสุด

มาถึงอัลบั้มปัจจุบัน Overexposed ที่คลอดมาในปี 2012 ซึ่งกำลังวังชาไปได้สวยกับ มหาศาลซิงเกิ้ลเท่ห์ๆ ที่มีความแปลกใหม่ทางแนวดนตรี ไม่ ว่าจะเป็นซิงเกิลล่าสุด วันมอร์ไนท์ (One More Night) กับเขตอิเล็คโทรนิค-เร็กเก้ ที่คลอดมาต่อจาก เพย์โฟน (Payphone) ที่ได้แรพเปอร์รับเชิญ วิซ คาลิฟา (Wiz Khalifa) มาร่วมงานเลี้ยง หรือเพลงบัลลาดกลิ่นอายฟังค์ บิวตี้ฟูล กู๊ดบาย (Beautiful Goodbye) และ ดูอิง เดิร์ท (Doin’ Dirt) ที่มีดิสโก้และร็อคประสาน ฯลฯ

สามารถติดตามผลงานเพลงใหม่ ๆ หรือข่าวเพลง ได้ทีนี่ >> http://radio.sanook.com